สาเหตุของการแพ้ถุงยาง
ผู้ที่แพ้ถุงยางส่วนมากมีสาเหตุมาจากการแพ้ยางพารา (Latex Allergy) และบางส่วนเกิดจากการแพ้สารฆ่าเชื้ออสุจิ (Spermicide) ซึ่งถุงยางอนามัยที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดส่วนมากผลิตจากยางธรรมชาติหรือน้ำยางพารา จึงทำให้มีโอกาสที่จะมีคนแพ้ถุงยางได้มากถึง 1 - 3% สามารถพบคนที่มีอาการนี้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
สามารถป้องกันการแพ้ถุงยางได้อย่างไร
เปลี่ยนเป็นรุ่นที่ไม่ใช้สารฆ่าเชื้ออสุจิ: ถ้าหากการแพ้ถุงยางมีสาเหตุมาจากแพ้สารฆ่าอสุจิ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ถุงยางอนามัยรุ่นอื่นที่ไม่มีการเคลือบสารดังกล่าวไว้ แม้จะเป็นถุงยางธรรมชาติเหมือนเดิม ก็จะไม่เกิดการแพ้ซ้ำอีก
เปลี่ยนมาใช้ถุงยางพลาสติก: สำหรับผู้ที่แพ้ยางพารา ต้องหาซื้อถุงยางที่ทำจากวัสดุอื่นมาใช้แทน นั่นคือถุงยางที่ผลิตจากโพลียูรีเธน (Polyurethane) และถุงยางที่ผลิตจากโพลีไอโซพรีน (Polyisoprene) หรือที่เราเรียกกันว่าถุงยางพลาสติกนั่นเอง คุณสมบัติเด่นคือมีความเหนียวและทนทานต่อการฉีกขาดได้ดีกว่าถุงยางทั่วไป นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ยางพาราอีกด้วย สามารถใช้สารหล่อลื่นที่ผลิตจากน้ำมันปิโตรเลียม หรือน้ำมันหล่อลื่นผิวหนัง จำพวก Mineral oil ได้ และสามารถทำให้บางได้ถึง 0.1 มิลลิเมตร จึงทำให้รู้สึกเสมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย แต่ข้อเสียคือมีราคาสูงและหาซื้อได้ยากกว่าถุงยางที่ผลิตจากยางธรรมชาติ
ใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่น: ในกรณีที่ไม่สามารถหาซื้อถุงยางพลาสติกได้ และไม่อยากเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ก็สามารถป้องกันด้วยการให้ฝ่ายหญิงทานยาคุมกำเนิด หรือใช้ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และป้องกันการตั้งครรภ์ได้ใกล้เคียงกับถุงยางอนามัยของผู้ชาย ที่สำคัญคือเป็นถุงยางพลาสติกจึงป้องกันการแพ้ยางพาราได้ แต่ข้อเสียคือหาซื้อตามร้านค้าทั่วไปได้ยากและมีราคาสูงกว่าถุงยางอนามัยของผู้ชาย